ศธ. เร่งพัฒนาร.ร.ต้นแบบสอน ‘แอคทีฟเลินนิ่ง’

ศธ. เร่งพัฒนาร.ร.ต้นแบบสอน ‘แอคทีฟเลินนิ่ง’ ให้ครบทุกจังหวัด

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการและประกาศนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง “พลิกโฉมโรงเรียนต้นแบบสร้างนวัตกรรมนักเรียนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps” เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566

โดยนายวิษณุ ได้กล่าวว่า การเรียนแบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps เป็นการเรียนที่เด็กได้ทดลองทำ ซึ่งเด็กมีความสนุก และเกิดความภาคภูมิใจ รวมถึงได้ปลดปล่อยพลังงานจากแรงบันดาลใจและการแนะนำของครูอาจารย์ จนเกิดเป็นนวัตกรรมต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งโครงการนี้ต้องการให้เด็กเอาพลังงานและประสบการณ์ที่มีอยู่ในตัวบวกกับบทเรียนมาสร้างให้เกิดประโยชน์ วันนี้อายุแค่นี้ทำได้เท่านี้ ต่อไปก็จะคิดอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ เพราะนักวิทยาศาสตร์หรือคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็เริ่มมาจากสิ่งเล็กๆอย่างนี้ทั้งนั้น

“เป้าหมายคือทำไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มต้นที่การอบรมครูให้รู้จักสร้างนวัตกรรมจากนวัตกรรมครูสู่นวัตกรรมนักเรียน ซึ่งเราคงต้องรอให้ทำได้ทุกภาค ทุกจังหวัดและทุกโรงเรียน ซึ่งถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ จะใช้เวลากี่ปีก็ไม่เป็นไร”รองนายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า ส่วนเรื่องความกังวลว่าหากเปลี่ยนรัฐบาลแล้วโครงการจะไม่ต่อเนื่องนั้น ตนไม่รู้สึกกังวลอะไร เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ ซึ่งอาจจะเปลี่ยนชื่อโครงการก็ได้ แต่เนื้อหาสาระก็ต้องเป็นอย่างนี้ และตนก็เห็นได้ว่าทุกพรรคที่หาเสียงก็มีนโยบายส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมอยู่แล้ว”นายวิษณุ กล่าว

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการศธ. กล่าวว่า ศธ.ได้ดำเนินการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบตาม “โครงการพัฒนานวัตกรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยรูปแบบ Active Learning อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา ทั้งนี้ศธ.จะเร่งพัฒนาโรงเรียนต้นแบบประจำจังหวัด ให้ครบทุกจังหวัด ภายใน ปีการศึกษา 2566 เพื่อขยายผลการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศเร็วที่สุด ให้เกิดเป็นสังคมฐานความรู้ และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำของโลกต่อไป

ศธ. เร่งพัฒนาร.ร.ต้นแบบสอน ‘แอคทีฟเลินนิ่ง’

ด้านดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.)ได้กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ.โรงเรียนไหนที่มีแผนการเรียนแบบท่องจำ แต่อย่างไรก็ตามการจำของเด็กก็จะเป็นการต่อยอดเพื่อให้เกิดความเข้าใจ วิเคราะห์ สังเคราะห์เพื่อนำไปใช้ จึงเป็น Passive Learning ต่อยอดเป็น Active Learning ซึ่งหลักสูตรตอนนี้ สพฐ.ได้ปรับปรุงเป็นการเรียนการสอนฐานสรรถนะแล้ว ซึ่งจะต้องจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ต่อไป

ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการตอบโจทย์การปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา เพราะจากการศึกษาแนวทางพัฒนาการศึกษาระดับโลก พบว่าเด็กระดับประถมศึกษาสามารถสร้างนวัตกรรมได้ และนวัตกรรมนี้ก็เชื่อมโยงกับการดำเนินชีวิตสามารถยกระดับคุณภาพผลผลิตในครอบครัวได้ ส่วนระดับมัธยมศึกษาก็สามารถต่อยอดนวัตกรรมไปเชื่อมโยงกับผลผลิตในชุมชน เพื่อนำไปสู่การเผยแพร่ในเชิงธุรกิจได้ ขณะที่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็เน้นการสร้างนวัตกรรมเชิงวิจัย จะเห็นได้ว่าระดับการเรียนรู้ทำให้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีศักยภาพสูงเท่ากับระดับอุดมศึกษาในอดีต ซึ่งเป็นการตอบโจทย์การปฏิรูปประเทศต่อไป

“การต่อยอดการเรียนรู้แบบ Active Learning ครั้งนี้ เป็นการตอบโจทย์ประเทศและตอบโจทย์สิทธิของนักเรียนทุกคนที่พึงมี เพราะถ้าเด็กได้รับการพัฒนาตั้งแต่เล็ก เชื่อว่าจะเปลี่ยนประเทศเป็นสังคมฐานความรู้ที่แท้จริง เด็กก็จะสามารถดำเนินชีวิตได้ และสามารถยกระดับคุณภาพของครอบครัวให้สูงขึ้นได้ เช่นประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม เด็กก็สามารถพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรผ่านนวัตกรรมได้”

ผศ.พิภัทรา สิมะโรจนา รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์(มรร.) กล่าวว่า มรร.ได้ดำเนินการ อบรมเพื่อสร้างวิทยากรต้นแบบ ในเรื่องการเรียนรู้แบบ Active Learning ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps เพื่อเป็นกำลังสำคัญที่จะลงพื้นที่ไปช่วยพัฒนาครูและนักเรียนในภาคตะวันออก เพราะมั่นใจในกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ที่จะช่วยให้ผู้เรียนสามารถสร้างความรู้ด้วยตัวเองและสร้างความมั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเอง ส่งผลให้สามารถสร้างนวัตกรรมของตัวเองได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ daukszewicz.

แทงบอล

Releated